เด็กในช่วงวัย 2 – 8 ปีนี้เป็นช่วงที่กำลังอยู่ในวัยดื้อซนและมักจะมีการร้องขอสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอยู่เสมอ เช่น ร้องขออยากไปเที่ยว, ร้องขออยากได้ของเล่น, ร้องขอไม่อยากอาบน้ำ และอื่น ๆ ดังนั้นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องทำก็คือตอบคำร้องขอของลูกอย่างสร้างสรรค์ เพื่อที่จะได้เป็นการปูพัฒนาการให้เด็กมีเหตุและผลต่อไป เกิดความสัมพันธ์ที่เข้าใจกันมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการลดแรงปะทะที่จะทำให้เกิดสงครามครอบครัวขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งจะมีแนวทางอย่างไรมาดูกัน
1. ร้องขออย่างมีมารยาท
เริ่มจากส่งเสริมการปลูกฝังมารยาทที่ดี ในการร้องขอให้กับลูกของคุณ ในกรณีที่ลูกของคุณเอ่ยปากถามคำถามหรือร้องขอต่าง ๆ อย่างสุภาพ ก่อนที่คุณจะตอบรับให้คุณชมลูกของคุณก่อนว่ามีการถามด้วยมารยาทที่ดี ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เด็กสัมผัสได้ว่าร้องขอของเขานั้นเป็นไปอย่างถูกต้อง หรือในกรณีที่ลูกของคุณร้องขอด้วยประโยคที่ไม่สุภาพ เป็นไปในเชิงดื้อ,สะอื้น หรือเรียกร้องมากจนเกินไป คุณจะต้องปรับพฤติกรรมของเขาด้วยการร้องขอว่า ขอให้ลูกถามใหม่ด้วยน้ำเสียงที่สงบลง หรือลองแนะนำให้ลูกเปลี่ยนคำขอเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เพื่อเป็นการเตือนเด็ก อย่าพึ่งไปดุหรือตำหนิทันทีแต่ลองให้ลูกได้ลองเปลี่ยนก่อน
2. ฟัง
มนุษย์ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหน ๆ ก็ต้องการคนรับฟัง แม้แต่เด็กอายุช่วง 2 – 8 ปีเช่นเดียวกัน ในกรณีที่ลูกของคุณร้องขอหรือเรียกร้องอะไร ให้คุณทำความเข้าใจกับสิ่งที่ลูกของคุณต้องการเสียก่อน โดยวิธีนี้เด็กจะยอมรับกับคำตอบของคุณมากยิ่งขึ้นอีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจต่อตัวเด็กอีกด้วย และจะทำให้เด็กเปิดใจยอมรับคำตอบของพ่อแม่มากขึ้น
3. ขอเวลาลูกคิดชั่วคราวก่อนที่จะตัดสินใจ
โดยการหยุดคิดชั่วคราวนั้น จะทำให้คุณมีโอกาสทบทวนกับสิ่งที่ลูกร้องขอหรือในกรณีที่คุณคิดทบทวนแล้วพบว่า คำขอของลูกนั้นมากจนเกินไป ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปฏิเสธเสียทีเดียวแต่สามารถต่อรองได้ ซึ่งการต่อรองนี้จะทำให้ความต้องการของลูกและความต้องการของพ่อแม่อยู่ในจุดที่ตกลงกันได้ ซึ่งจะทำให้ลูกหลานของคุณนั้นเรียนรู้วิธีที่จะประนีประนอมในความสำคัญของการร้องขอ หรือการหาข้อตกลงในความสัมพันธ์ เด็กจะได้เป็นผู้ที่มีใจกว้างในยามที่เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่
สำหรับคำร้องขอที่พบได้มากในเด็กวัยนี้ ก็มักจะมีอยู่เพียงแค่ไม่กี่เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการอยากจะทานขนม, อยากออกไปเที่ยว, อยากเล่น, อยากซื้อของเล่นต่าง ๆ เป็นต้น สิ่งสำคัญก็คือคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรที่จะปฏิเสธเด็กไปเสียทีเดียว เพราะอาจทำให้เด็กเกิดอาการผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแสดงความไม่พอใจเกรี้ยวกราดอย่างรุนแรงขึ้นมาได้ ในยามที่เขาเก็บกดจนกระทั่งถึงขีดสุด สิ่งสำคัญของการเป็นครอบครัวคือความประนีประนอม คุณอาจจะอนุญาตให้ลูกทานไอศกรีมอาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรืออาจจะซื้อของเล่นให้เขาในยามที่ทำตามกฎที่วางไว้ได้ 1 ชิ้นเช่นนี้เป็นต้น และสิ่งสำคัญคือคำพูดต้องเป็นคำพูด สัญญากับเด็กไว้แล้วจะต้องทำให้ได้ มิฉะนั้นเด็กจะมองว่าคุณเป็นพ่อแม่ที่ไม่น่าเชื่อถือทันที