ในยามที่ลูกน้อยมีอาการไม่สบายร้องไห้งอแง หนึ่งในวิธีการตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายเบื้องต้นก็คือการวัดไข้ แต่การวัดไข้ของลูกน้อยก็มีความแตกต่างจากการวัดไข้ของผู้ใหญ่ ซึ่งสำหรับคุณแม่คุณพ่อมือใหม่ ที่ยังไม่เคยวัดอุณหภูมิไข้ให้ลูกมาก่อน ซึ่งในบทความนี้เราก็มีวิธีการวัดไข้อย่างถูกต้องแม่นยำมาฝากกัน
วิธีที่ดีที่สุดในการตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายของเด็ก
อุปกรณ์ที่คุณต้องใช้คือการใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิตอล เพราะมีความแม่นยำที่สุดและใช้งานง่ายมากที่สุด โดยคุณสามารถวัดอุณหภูมิได้จาก 2 จุด ได้แก่…ใต้ลิ้นหรือรักแร้ โดยเครื่องวัดอุณหภูมิทางหูและหน้าผากแบบดิจิตอลอาจใช้งานง่ายที่สุดก็จริงแต่ก็อาจคลาดเคลื่อนได้
กรณีที่คุณควรวัดอุณหภูมิให้ลูกน้อยทันที ได้แก่…
- ลูกไม่สบายและเมื่อนำมือไปสัมผัสร่างกายรู้สึกอบอุ่นกว่าปกติ
- เด็กหงุดหงิดและร้องไห้กว่าปกติ
- เด็กง่วงนอนมากกว่าปกติ
- เด็กไม่ยอมดื่มน้ำ
- อาเจียน
โดยอุณหภูมิร่างกายเฉลี่ยสำหรับเด็กที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 37°C หากอุณหภูมิของเด็กสูงกว่า 38°C แสดงว่าอาจมีไข้
ทางที่ดีควรตรวจสอบอุณหภูมิของลูกด้วยการใช้เทอร์โมมิเตอร์ การสัมผัสอุณหภูมิผิวของลูกด้วยการเอามือแตะหน้าผากเพียงอย่างเดียวไม่ใช่วิธีวินิจฉัยไข้ที่น่าเชื่อถือ
คุณสามารถใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิตอลเพื่อวัดอุณหภูมิ ได้ 2 วิธีหลัก ได้แก่…
- ช่องปากเปล่า ให้คุณสอดเทอร์โมมิเตอร์เข้าไปในปากของเด็กใต้ลิ้น
- รักแร้ ให้คุณวางเทอร์โมมิเตอร์ไว้ใต้รักแร้ของเด็ก
ถ้าคุณต้องการที่จะตรวจวัดอุณหภูมิของลูกทั้งจากในช่องปากและใต้รักแร้ โดยใช้เทอร์โมมิเตอร์แท่งเดียวกัน ให้คุณตรวจสอบอย่างแน่ใจว่าได้ทำความสะอาดอย่างดีระหว่างการใช้งานแต่ละครั้ง คุณสามารถทำความสะอาดเทอร์โมมิเตอร์ด้วยการใช้น้ำสบู่อุ่น ๆ หรือแอลกอฮอล์เช็ด ถึงแม้ว่าคุณสามารถใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิทัลเพื่ออ่านค่าอุณหภูมิทางทวารหนักได้ แต่ไม่แนะนำเพราะมีความเสี่ยงที่ปลายเทอร์โมมิเตอร์อาจทำให้เยื่อบุทวารหนักของลูกคุณเกิดแผลได้ ดังนั้นถ้าวัดไข้เองจากที่บ้านไม่แนะนำควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอจะดีกว่า
ให้พาลูกพบแพทย์ทันทีเมื่อลูกมีไข้สูง
เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 เดือนที่มีไข้ควรพาไปหาหมอทันทีเพราะเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เด็กอายุ 3-12 เดือนการมีไข้อาจเป็นสัญญาณของการเจ็บป่วยที่อันตรายเช่นกัน ดังนั้นควรพาไปหมอทันทีที่เป็นไปได้ ยิ่งหากลูกของคุณมีไข้หรือมีอาการเจ็บป่วยร้ายแรงอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีอาการปวดอย่างรุนแรง, ง่วงนอนไม่ยอมตื่น, ผิวซีด, หายใจลำบาก และอื่น ๆ ยิ่งเป็นอาการที่แสดงให้เห็นถึงความอันตราย
เป็นเรื่องปกติที่อุณหภูมิของเด็กจะขึ้น ๆ ลง ๆ เมื่อมีไข้ ดังนั้นคุณสามารถวัดอุณหภูมิของลูกได้บ่อยเท่าที่ต้องการ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลลูกของคุณอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะได้ส่งลูกไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว กรณีที่ลูกของคุณป่วยหนักจะได้รักษาได้ทันการ